สหรัฐอเมริกาและจีนประกาศอัดฉีดสินเชื่อส่งเสริมการค้าจำนวน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา ผ่านทางธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของรัฐบาลสหรัฐและจีน และตกลงที่จะช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจโลก ในระหว่างการประชุมหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งและปิดฉากลงในวันนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐสหรัฐ ตกลงที่จะเร่งขั้นตอนการรับรองให้สถาบันการเงินของ จีนเข้ามาลงทุนในประเทศได้เร็วขึ้น ด้านนายหวัง ฉีซัน รองนายกรัฐมนตรีจีน แสดงความคาดหวังว่าสองชาติจะเจรจากันอย่างตรงไปตรงมาต่อไปในภายหน้า โดยการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายของนายพอลสัน ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการประชุมนี้ เนื่องจากคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กำลังจะหมดวาระการทำหน้าที่ในเดือนมกราคมปีหน้า
วิเคราะห์ข่าว
จากสภาวะที่สหรัฐอเมริกาประสบกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน และส่งผลกระทบต่อนานาประเทศนั้น ทั้งภาคเศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรมล้วนเกิดการชะลอตัวและไม่มีเงินทุนในการผลิตผลผลิต ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนล้วนแต่เป็นประเทศมหาอำนาจด้วยกันทั้งคู่ การปล่อยสินเชื่อให้กับประเทศที่กำลังพัฒนาถือว่า เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการค้าและการส่งออก และเป็นการช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจโลก เพราะการให้ความช่วยเหลืออาจจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม และมีแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อไปข้างหน้า
หากอเมริกาเเละจีนสนับสนุนก้อน้าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
ตอบลบเพราะทั้งสองเป็นประเทศมหาอำนาจและมีศักยภาพสูง
ถ้าให้ความร่วมมือกันแบบนี้
ตอบลบอีกหน่อยเศรษฐกิจทั่วโลกคงจะดีขึ้น
และประเทศไทยก้อดีขึ้นด้วย
เศรษฐกิจคงจะดีขึ้น
ตอบลบรอกันต่อไป
เศรฐกิจคงจะดีขึ้นนะ
ตอบลบหวังว่าสองชาติจะเจรจากันอย่างตรงไปตรงมา
ตอบลบต่อไปในภายหน้า
ทำให้ได้แล้วกัน
ตอบลบจะรอดูเศรฐกิจจะดีป่าว
เศรฐกิจคงจะดีขึ้นนะ
ตอบลบทั้งสองเป็นมหาอำนาจ
เศรฐกิจคงจะดีขึ้นนะ
ตอบลบทั้งสองเป็นมหาอำนาจ
ทำให้ได้แล้วกัน
จะรอดูเศรฐกิจจะดีป่าว
หวังว่าสองชาติจะเจรจากันอย่างตรงไปตรงมา
ต่อไปในภายหน้า
ถ้าให้ความร่วมมือกันแบบนี้
อีกหน่อยเศรษฐกิจทั่วโลกคงจะดีขึ้น
ถ้าให้ความร่วมมือกันแบบนี้
ตอบลบอีกหน่อยเศรษฐกิจทั่วโลกคงจะดีขึ้น
เศรฐกิจคงจะดีขึ้นนะ
ทั้งสองเป็นมหาอำนาจ
เศรษฐกิจคงจะดีขึ้น
ตอบลบรอกันต่อไป
และประเทศไทยก้อดีขึ้นด้วย