1/15/2552

สรุปผลโหวต ณ วันที่ 15/01/09 เวลา 13.20

ผู้ลงคะแนนโหวต 184 คน แบ่งได้ดังนี้

โหวต 5 คะแนน มี 108 คน
โหวต 4 คะแนน มี 35 คน

โหวต 3 คะแนน มี 21 คน

โหวต 2 คะแนน มี 14 คน

โหวต 1 คะแนน มี 6 คน


ได้ 772/915 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.37%

1/13/2552

นายกฯญี่ปุ่น-ปธน.เกาหลีใต้จับเข่าคุย ยันร่วมมือฝ่าฟันเศรษฐกิจโลกถดถอยร่วมกัน

นายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ ได้ให้คำมั่นว่า ร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรคจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก จนทำให้ความต้องการสินค้าส่งออกของเอเชียหดตัวลง โดยความร่วมมือของ 2 ประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญในยามที่ทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจโลก
นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นของ 2 ประเทศเพื่อนบ้านอาจจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เจรจากัน เพื่อทำข้อตกลงการค้าเสรีหรือไม่ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะดึงดูดกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรของญี่ปุ่น ให้เข้ามาทำธุรกิจในเกาหลีใต้

เกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ตกลงกันเมื่อเดือนที่แล้วในการเพิ่มข้อตกลงเพื่อสว็อปค่าเงินถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 3 พันล้านดอลลาร์ โดยค่าเงินวอนได้ดีดตัวขึ้น 11% นับตั้งแต่ดิ่งลงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา

วิเคราะห์ข่าว

การที่สองประเทศรวมมือกันพูดคุยในเรื่องเศรษฐกิจ เป็นความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นของ 2 ประเทศเพื่อนบ้าน โดยแต่เดิมแล้ว ญี่ปุ่นมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็งประกอบกับการมีประเทศเกาหลีใต้ต้องการที่จะให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศ เพื่อความคล่องทางการเงิน และเป็นตัวช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสองประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย

สหรัฐเตรียมเปิดงานมหกรรมยานยนต์สวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลก



สหรัฐอเมริกาเตรียมเปิดงานแสดงยานยนต์นานาชาติประจำปี ที่เมืองดีทรอยท์ แม้บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ และญี่ปุ่นจะมียอดขายลดลงอย่างหนัก แต่ จีเอ็ม และ ไครส์เลอร์ ได้รับแรงกดดันอย่างหนักให้พัฒนารถยนต์ให้ดีขึ้น เนื่องจากทั้งสองบริษัทเพิ่งได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ หลังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะดำเนินการต่อไปได้ โดยสื่อต่างจับจ้องว่าบริษัท "บิ๊กทรี" อย่าง จีเอ็ม ไครส์เลอร์ และ ฟอร์ด จะสามารถแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้าและฮอนด้าได้สมน้ำสมเนื้อหรือไม่

ในขณะเดียวกันบริษัทยานยนต์ของญี่ปุ่นก็ถูกกดดันให้รักษามาตรฐาน และชื่อเสียงในฐานะผู้นำของโลก ด้านการผลิตยานยนต์ประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนบริษัทผลิตยานยนต์จากจีนอย่างบริษัท บริลเลียนซ์ ไชน่า ออโต้ (Brilliance China Auto Ltd.) และ บีวายดี (BYD Co.) ก็เข้าร่วมมหกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในปีนี้

ในปีที่ผ่านมา มหกรรมยานยนต์ดังกล่าวสามารถดึงดูดผู้ร่วมงานได้กว่า 700,000 คนจากทั่วโลก ส่วนในปีนี้ งานดังกล่าวจะเปิดรอบสื่อตั้งแต่วันที่ 11 - 13 ม.ค. และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 17 -25 ม.ค.นี้


วิเคราะห์

จากการที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้ยอดขายรถลดลง หากมีการงานแสดงยายนต์อาจจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มมากขึ้น แต่คงไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจากปีก่อนมหกรรมยานยนต์ดังกล่าวสามารถดึงดูดผู้ร่วมงานได้กว่า 700,000 คนจากทั่วโลก ปีนี้อาจจะไม่มากนักเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย แต่หากเป็นยานยนต์ที่แสดงถึงมาตรฐานด้านประหยัดพลังงาน ก็อาจทำให้น่าสนใจเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐเผยตัวเลขว่างงานพุ่งสูง



ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังสหรัฐเผยตัวเลขว่างงานที่พุ่งสูงจนหลายฝ่ายวิตกว่า เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนักกว่าเดิม โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนธ.ค.ปี 2551 ร่วงลง 524,000 ตำแหน่ง หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว สหรัฐก็จะนำเข้าสินค้าจากประเทศในเอเชียน้อยลง ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีต่อประเทศใดลย

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี Standard & Poor’s 500 ร่วง 2.1% ซึ่งถือว่าเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ในขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าตัวเลขว่างงานพุ่งแตะ 7.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ เมื่อปีที่แล้วในสหรัฐมีคนตกงานกว่า 2.589 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าจำนวนผู้ตกงานในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

วิเคราะห์ข่าว

การที่ตลาดหุ้นลดตัวดิ่งลง เป็นผลมาจากการที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซาถดถอยอย่างต่อเนื่อง และการว่างงานของสหรัฐเพิ่มมากขึ้นทำให้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว สหรัฐก็จะนำเข้าสินค้าจากประเทศในเอเชียน้อยลง ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีต่อประเทศใดเลย

แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดเศรษฐกิจยุโรปหดตัวอาจบีบ ECB ลดดอกเบี้ยเหลือ 0%


http://hitech.sanook.com/story_picture/b/05860_002.jpg

แบงก์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปที่หดตัวลงกำลังบีบให้ฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เร่งลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือระดับ 0% แม้ก่อนหน้านี้ ทริเชต์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับดังกล่าวก็ตาม ประธานอีซีบี ยืนกรานว่าจะไม่ยอมทำตามแรงกดดันของหลายประเทศในยุโรป ที่ให้ลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำ แต่อีกไม่นานก็จะมีการลดดอกเบี้ยจนถึงระดับศูนย์ เพราะเศรษฐกิจในยุโรปถดถอยรวดเร็วมาก จึงทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีที่ 15 ม.ค.นี้

แบงก์ ออฟ อเมริกาคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานและอัตราการลงทุนที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วอาจส่งผลให้ 16 ประเทศยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโร หดตัวลง ซึ่งมากกว่าที่อีซีบีเคยคาดการณ์ไว้ถึง 5 เท่า และอาจทำให้อีซีบีต้องดำเนินการตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ ที่ลดดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้

ธนาคารกลางเยอรมนีคาดการณ์ว่า เยอรมนีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปจะหดตัวลง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ยอดส่งออกสินค้าของเยอรมนีร่วงลงด้วย ทำให้ต้องกำลังลดปริมาณการผลิตและลดการจ้างงาน หลังจากที่ตลาดแรงงานเริ่มต้านทานวิกฤตการเงินไว้ไม่อยู่ เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงยิ่งขึ้นได้กดดันให้ Siemens AG และ Bayerische Motoren Werke AG ตัดสินใจปลดพนักงาน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

วิเคราะข่าว

การที่เศรษฐกิจยุโรปที่หดตัวลงบีบธนาคารกลางยุโรปให้เร่งลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือระดับ 0%ประธานอีซีบียืนกรานว่าจะไม่ยอมทำตามแรงกดดันของหลายประเทศในยุโรปที่ให้ลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำนั้น ธนาคารไม่น่าจะลดดอกเบี้ยลงมาถึง 0%ได้ แต่อาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงมาให้มากกว่าเดิมที่มีอยู่ ควรหาแนวทางอื่นมากระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะเหมาะกว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของยุโรปเข้าขั้นอันตราย ตัวเลขจ้างงานและอัตราการลงทุนที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว หดตัวลง แต่ควรจะรอดูสถานการณ์ต่อไปก่อนก่อนที่จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยให้เหลือเพียง 0%

อังกฤษเตรียมเผยแผนมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์กระตุ้นตลาดแรงงานในประเทศ




รัฐบาลอังกฤษจะเปิดเผยแผนการฉุกเฉินมูลค่า 500 ล้านปอนด์ หรือ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยกระตุ้นการจ้างงานในประเทศ สื่อของอังกฤษรายงานว่า แผนการดังกล่าวรวมถึงการที่นายจ้างจะได้รับเงินช่วยเหลือมูลค่า 2,500 ปอนด์ (3,750 ดอลลาร์) ต่อพนักงานหนึ่งคนที่บริษัทว่าจ้างมา ซึ่งพนักงานใหม่จะต้องตกงานมานานไม่น้อยกว่าหกเดือน

ทั้งนี้ เป็นที่คาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า ตัวเลขว่างงานของอังกฤษอาจเพิ่มขึ้นทะลุ 3 ล้านคนในปีหน้า โดยรายงานที่สหพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) ได้จัดทำขึ้น ระบุว่า ภาคบริการการเงินของประเทศจะลดการจ้างงานลง 15,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันที่มีการจ้างงานอยู่ที่ราว 1 ล้านคน การประชุมจ๊อบ ซัมมิทถูกจัดขึ้น ในขณะที่มีความกังวลสูงขึ้นว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่คาดว่าจะยืดเยื้อยาวนานและรุนแรงนั้น อาจบีบให้นายจ้างต้องเลย์ออฟพนักงานเพิ่มอีก

วิเคราะห์ข่าว

รัฐบาลอังกฤษจะประกาศใช้มาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นการจ้างงานในประเทศ ขณะ ที่ตัวเลขว่างงานกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากรัฐบาลอังกฤษสามรถช่วยเหลือประชากรไม่ให้ตกงานมากขึ้น การซื้อขายใช้จ่ายในประเทศก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่จากการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า ตัวเลขว่างงานของอังกฤษอาจเพิ่มขึ้นทะลุ 3 ล้านคนในปีหน้า โดยรายงานที่สหพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) ได้จัดทำขึ้น ระบุว่า ภาคบริการการเงินของประเทศจะลดการจ้างงานลง 15,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันที่มีการจ้างงานอยู่ที่ราว 1 ล้านคน หากภาวะเศรษฐกิจยังคงถดถอยที่คาดว่าจะยืดเยื้อยาวนานและรุนแรงนั้น อาจบีบให้นายจ้างต้องเลย์ออฟพนักงานเพิ่มอีก

1/11/2552

นักเศรษฐศาสตร์คาดชาวจีนอาจตกงานสูงเกือบ 4 ล้านคนในปีนี้




เฉิง ซีเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของจีนคาดการณ์ว่า ชาวจีนกว่า 3.9 ล้านคนอาจต้องตกงานในปีนี้ หากการขยายตัวของจีดีพีชะลอตัวลงแตะ 8%


นายเฉิง อดีตรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติของจีน กล่าวในการประชุมตลาดเงินเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า หากจีดีพีของประเทศขยายตัวช้าลงเพียง 1% ชาวจีนอย่างน้อย 1 ล้านคนอาจต้องตกงาน โดยอ้างอิงจากข้อมูลในปี 2550 ซึ่งมีการจ้างงานใหม่สูงถึง 11.5 ล้านตำแหน่ง หลังจีดีพีขยายตัว 11.9%


อย่างไรก็ตาม นายเฉิงเชื่อว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านหยวน (5.839 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ทางการจีนประกาศใช้เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาจะช่วยกระตุ้นการจ้างงานผ่าน การลงทุนในโครงการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

วิเคราะห์ข่าว

การที่จีดีพีของจีนลดลง เป็นผลมาจากการที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างมาก การซื้อขายทั้งภายในและภายนอกลดลงตามทำให้จีดีพีของจีนลดลง หากการขยายตัวของจีดีพีชะลอตัวลงอยู่ รัฐบาลจีนควรกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายที่ใช้อยู่และควรส่งเสริมสร้างแรงงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งแรงงานออกนอกประเทศ เพื่อให้แรงงานมีมาตรฐาน หากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จีนใช้ยังไม่สามารถช่วยให้จีดีพี ของประเทศขยายตัวควรหาแนวทางอื่นแก้ไข

สหรัฐว่างงานสูงสุดรอบ60ปี


อัตราการว่างงานของสหรัฐ มีถึง 2.6 ล้านตำแหน่งปีที่แล้ว สูงสุดรอบ 60 ปี หรือนับแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะยอดว่างงานเดือน ธ.ค. พุ่งสูงสุดรอบ 16 ปีที่ 7.2% สะท้อนการตกงานทุกภาคอุตสหกรรม ตอกย้ำเศรษฐกิจสหรัฐ ถดถอยมากกว่าคาด "บารัก โอบามา" วอนส.ส.เร่งผ่านแผนฟื้นฟูศก. พร้อมเตือนหากไม่ลงมือทำอะไร ภาวะถดถอยที่สหรัฐเผชิญอยู่อาจยืดเยื้อหลายปี

วิเคราะห์ข่าว

การว่างงานของสหรัฐเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐถดถอยไม่ขยายตัว โดยผู้ประกอบการควรกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมของตนเองให้สำเร็จ ก่อนที่จะมีประชากรของประเทศตกงานมากไปกว่านี้ และยังสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ตกต่ำของสหรัฐอย่างมาก นาย บารัก โอบามา ควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการลงมือทำอย่างรวดเร็วให้เห็นผลอย่างเร็ว ก่อนที่ภาวการณ์ถดถอยของเศรษฐกิจของสหรัฐจะยืดเยื้อไปมากกว่านี้ และส่งผลกระทบไปทั่วโลก

FED เผยสินเชื่อผู้บริโภคในสหรัฐเดือนพ.ย.ร่วงหนักสุดในรอบ 10 ปี


http://www.siamturakij.com/home/administrator/news/img_news/mo1_762.jpg

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า สินเชื่อผู้บริโภคปรับตัวลดลงกว่า 3.7% โดยมีสินเชื่อผู้บริโภคเหลืออยู่ 2.57 ในขณะเดียวกัน ความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อรถ ท่องเที่ยว การศึกษา และอื่นๆ ร่วงลงราว 3.9% หลังจากที่ร่วงลง 2.1%
ซึ่งสินเชื่อผู้บริโภค เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสถานการณ์การใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดในสหรัฐ และเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ

ชาวอเมริกันลดการใช้จ่ายลงราว 3.7% อันเป็นผลมาจากอัตราว่างงานที่พุ่งสูง ราคาบ้านที่ร่วงหนัก และวิกฤตสินเชื่อครั้งใหญ่ของโลก


นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า สินเชื่อผู้บริโภคไม่น่าจะดีดตัวขึ้นในเร็ววัน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่องจนถึงช่วงต้นปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

วิเคราะห์ข่าว

ผลของการที่ภาวะเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้การซื้อขายใช้จ่ายของสหรัฐลดลง ทำให้จีดีพีของประเทศลดลงตาม ถึงแม้ว่าจะมีการปล่อยกู้หรือให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยถูก ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นให้ประชากรใช้จ่ายกันอย่างเดิม การใช้จ่ายของประชากรลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และการลดลงของดอกเบี้ยยังไม่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศได้ และการที่ภาวะซบเซาอย่างนี้ ประชากรของสหรัฐยังว่างงานกันมากที่สุด

อังกฤษเผย GDP ไตรมาส 4 ปี 51 หดตัวรุนแรง 1.5% ชี้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว




ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2551 ของอังกฤษ หดตัวลง 1.5% ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี
ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยในภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% แตะที่ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ 315 ปีของธนาคารกลางอังกฤษ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอย

นอกจากนี้ เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษเดือนธ.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2547 จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งสูงขึ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

วิเคราะห์ข่าว


ความตื่นตัวในการผลักดันมาตรการการเงิน เช่นการลดอัตราดอกเบี้ย เป็นต้นนั้น ส่งผลดีแต่การเน้น แต่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ก็จะส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชน และสิ่งแวดล้อมตกต่ำ โดยอัตราการเติบโตของจีดีพีนั้น คือผลตอบแทนของประเทศนั้นๆ แต่ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย จะแคบลงหรือ ประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข โดยจีดีพีนั้นเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ที่ทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในการบริโภค และการเข้ามาลงทุน

1/09/2552

จีดีพีสหรัฐจะลดลงอีกในปีนี้ การว่างงานจะสูงขึ้นถึงปี53


เฟดทำนายเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะถดถอยลงอีกในปีนี้ และการว่างงานจะเพิ่มขึ้นไปจนถึงปี 2553 ขณะเดียวกันคาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะขาดดุลงบประมาณถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์

วิเคราะห์ข่าว


อัตราการว่างงานเป็นตัวชี้วัดที่มีความสำคัญ และสามารถชี้ให้เห็นถึงภาวะการทำงานของประชากร และภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น


ซึ่งรัฐควรมีการผลักดันอุตสาหกรรมเข้าไปในตลาดโลก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ การเกษตรและอาหาร เป็นต้น ประกอบกับการขยายตัวของการส่งออก ทำให้เกิดความต้องการแรงงาน และควรนำแผนการกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ และการเพิ่มการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศเพิ่มขึ้น อันส่งผลดีต่อแรงงานที่กำลังว่างงานอยู่ในตอนนี้

บราวน์ บราเธอร์สชี้ประเทศตลาดเกิดใหม่แห่ระดมทุนอาจหนุนต้นทุนกู้ยืมพุ่งแรง


http://www.siaminfobiz.com/mambo/images/stories/Personal%20Fin/Inv8.jpg

บราวน์ บราเธอร์ส แฮร์รีแมน แอนด์ โค เปิดเผยว่า การที่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ อาจต้องเร่งระดมทุนเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ จะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืม หรืออัตราดอกเบี้ย พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รายได้จากการส่งออกของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ทรุดตัวลงเนื่องจากความต้อง การในต่างประเทศชะลอตัวลงและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง ขณะที่ภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อ ส่งผลให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดน้อยลงด้วย ประเทศเหล่านี้ถูกบีบให้ต้องเร่งกู้เงินระหว่างประเทศเพราะใกล้จะถึงช่วง เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่


วิเคราะห์ข่าว


การที่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ต้องเร่งระดมทุน ก็เพราะต้องการนำเงินมาสร้างให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง เพราะที่ผ่านมา ได้มีการนำเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาใช้จำนวนมาก ทำให้เกิดการขาดดุล ซึ่งกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการ เรื่องการระดมทุนระหว่างประเทศ เพราะต้องการรับความช่วยเหลือทางการเงิน จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

1/05/2552

ผู้ว่าฯบีโอเจเผยจะพิจารณามาตรการสกัดเงินเยนแข็งค่า


http://www.worlddiscovery-travel.com/image_history/essential2_03.jpg

ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจพิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึงนโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในระยะใกล้

เนื่องจากเงินเยนที่พุ่งทะยานขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอย พร้อมกับสหรัฐและยุโรปนั้น จะยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้ส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 71 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในเดือนที่แล้ว เงินเยนแข็งค่าขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 13 ปี เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งการที่เงินเยนมีมูลค่าสูงขึ้น จะทำให้ผู้ส่งออกมีรายได้จากต่างประเทศลดลง และส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันกับผู้ส่งออกต่างประเทศ

วิเคราะห์ข่าว


ญี่ปุ่นมีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยค่าเงินเยนแข็งค่าจะทำให้เงินทุนไหลกลับมาในประเทศ และเมื่อเกิดวิกฤติการเงินในยุโรปและอเมริกา ก็จะทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าสูงขึ้น ส่งผลเสียรุนแรงต่อประเทศ ซึ่งญึ่ปุ่นมีวิธีแก้ไข เช่น การปรับนโยบายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงิน หรือ
การย้ายฐานการผลิตออกไปต่างประเทศ ยอมให้คนว่างงานในญี่ปุ่น แล้วไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มค่าเงินให้สูงขึ้น ดังนั้น เราสามารถนำวิธีการนี้ นำมาปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับประเทศเรา แต่อันดับแรกที่เราต้องทำ คือ ต้องทำระบบเศรษฐกิจของเราให้แข็งแกร่งก่อน

1/03/2552

IMF ผลักดันนานาชาติใช้มาตรการกระตุ้นการเงินเชิงรุก ฟื้นตลาดและเศรษฐกิจ


ดูภาพขนาดใหญ่
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ผลักดันให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ใช้มาตรการกระตุ้นด้านการเงินเชิงรุกและแบบฉุกเฉิน เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพในตลาดเงิน และกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก ส่วนวิกฤตที่เกิดขึ้นจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เนื่องจากผลพวงที่เกิดขึ้นจากปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐ โดยวิธีการแก้ปัญหาวิกฤตการเงิน และเศรษฐกิจมหภาคต้องใช้ มาตรการที่มีเป้าหมายพุ่งไปที่ธุรกิจไฟแนนซ์ และเพิ่มดีมานด์ จังหวะเวลาและการลงมือทำถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งไอเอ็มเอฟยังได้แนะนำให้มีการเพิ่มการใช้จ่ายและลดภาษี ลดภาษีทั่วไป หรือให้เงินชดเชยแก่ผู้บริโภคหรือบริษัทเอกชน เพื่อที่ผู้บริโภคและเอกชนจะได้รับผลกระทบที่น้อยลง โดยรัฐบาลควรจะเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้น หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็น และกำหนดกรอบระยะเวลาในการลดขอบเขตการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆดีขึ้นแล้ว

วิเคราะห์ข่าว

วิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้ความต้องการลดลง
ทำให้เกิดความเสี่ยงของเงินฝืด หนี้สูง และเกิดผลกระทบต่อธุริจการเงินมากขึ้น รัฐบาลควรใช้ มาตรการกระตุ้นทางการเงินมากกว่าปกติ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่การที่จะพึ่งการส่งออกนั้นไม่ใช่ทางออก สำหรับทุกประเทศ ซึ่งในการกรุตุ้นโดยวิธีนี้ อาจจะส่งผลที่ไม่ดีสำหรับรัฐบาล ถ้าไม่มีพร้อมจริงๆ อาจจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมยิ่งแน่ไปอีก ดังนั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะกระทำการสิ่งใด ควรจะพิจารณาให้รอบคอบและถี่ถ้วน