ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2551 ของอังกฤษ หดตัวลง 1.5% ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยในภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% แตะที่ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ 315 ปีของธนาคารกลางอังกฤษ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้ เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษเดือนธ.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2547 จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งสูงขึ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
วิเคราะห์ข่าว
ความตื่นตัวในการผลักดันมาตรการการเงิน เช่นการลดอัตราดอกเบี้ย เป็นต้นนั้น ส่งผลดีแต่การเน้น แต่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ก็จะส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชน และสิ่งแวดล้อมตกต่ำ โดยอัตราการเติบโตของจีดีพีนั้น คือผลตอบแทนของประเทศนั้นๆ แต่ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย จะแคบลงหรือ ประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข โดยจีดีพีนั้นเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ที่ทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในการบริโภค และการเข้ามาลงทุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น